วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Marry Chistmas


25 December 2018
                    01:03 p.m.
     บ่ายคล้อยของช่วงวันที่ใครๆก็ต่างรอคอยให้มาถึง จะเรียกว่าเทศกาลของขวัญก็ว่าได้ เด็กๆต่างเฝ้ารอและหวังที่จะได้ของขวัญในวันนี้ "วันคริสต์มาส"

    ร่างสูงโปร่ง เรียวขาเล็ก ผมสวยชมพูอมม่วงอ่อนๆ กับโค้ชตัวใหญ่สีน้ำตาลโอ๊คคลุมทับเสื้อคอเต่าสีดำคลับ กางเกงยีนส์ราคาแพง เข้ากันกับบู๊ทหนังสีดำด้าน
 
     ผ่านสายลมเย็นปนเกล็ดหิมะในฤดูเหมันต์ ก้าวเดินไปตามทางริมถนนใหญ่ พร้อมกับของในมือมากมายที่กำลังจะนำไปที่สตูดิโอของตนเอง


-Hope World-
  แกร๊ก!
      บานประตูที่คุ้นเคยถูกเปิดออกก่อนที่จะวางของและสัมภาระบนโต๊ะข้างๆ โค้ชถูกทอดวางบนผนักเก้าอี้ ก่อนที่จะเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานขึ้น
ก๊อก.. ก๊อก!

"โฮซอกฮยอง!"

      เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เจ้าของเสียงเป็นคนเปิดเข้ามาเอง ใบหน้าเรียวสวยหันเอี้ยวไปตามเสียงเรียกก่อนที่จะระบายยิ้มอ่อนออกมาจากปากสวยได้รูป

"อ่าว..จีมิน..มีอะไรรึป่าวอ่ะ"
"ฮยองไปไหนมาหรอครับ"
"ไปซื้อของมาน่ะ..ว่าจะเอากลับไปทำกินที่หอ"
"หู้วววว ซื้อมาเยอะเลย ผมว่าจะกลับหอพอดี ฮยองฝากผมได้นะ"
"ขอบใจมากนะ จีมิน"
"เอ้อ..โฮซอกฮยอง.."

     มือเล็กป้อมที่กำลังหยิบเอาข้าวของต่างๆใส่มือ เรียกทักให้ โฮซอก ที่กำลังเปิดคอมพิวเตอร์หันมามองด้วยสายตาที่สงสัย

"ยุนกิฮยองน่ะเป็นอะไรไม่รู้ ดูหงุดหงิดแปลกๆ ฮยองช่วยไปดูให้หน่อยสิ"
"หื้ม..? ทำไมไม่ไปดูล่ะ?"
"ผมกลัวอ่ะฮยองงงง ไปดูให้หน่อยนะๆ ใครเข้าไปยุนกิฮยองก็ไล่ออกมาหมดเลย"
"งั้นไว้ทำงานเส็จ ฮยองจะไปดูนะ"
"โอเค อย่าลืมนะฮยอง ผมไปแล้วนะ"
"บายนะ จีมิน"

      พูดจบร่างสมส่วนของพัคจีมินก็เดินออกจากสตูดิโอของจองโฮซอกไป

ร่างบางนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลาอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่สายตาเรียวจะมองผ่านนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังบอกเวลา 6:08 p.m. แล้ว..

'สักสองทุ่มค่อยกลับดีกว่า..'

คิดได้ดังนั้นก็ลุกออกจากเก้าอี้เพื่อจะไปชงกาแฟมาดื่มก่อนที่จะทำงานต่อ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นพร้อมกับหิมะที่ร่วงโปรยปรายมาอย่างไม่ขาดสาย ถ้าได้รับเครื่องดื่มอุ่นๆและ 'กอด' จากใครสักคนก็คงจะดีไม่น้อยเลย

สองขาย่างก้าวมาหยุดอยู่หน้าสตูดิโอของใครสักคนที่ร่างบางเองก็คุ้นเคย พร้อมกับแก้วกาแฟอุ่นของตนเอง ก่อนสายตาเรียวเล็กจะมองลอดผ่านเข้าไป เห็นร่างหนานั่งทำงานอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

แม้ตอนนี้นี้ใกล้คราภพค่ำเข้ามาทุกที ณ ที่แห่งนี้คงเหลือเพียงแค่เขากับ มิน ยุนกิ เพียงแค่สองคน..

'ไม่กวนดีกว่า..'

คิดได้ดังนั้นแล้วสองขาเรียวก็เดินกลับไปยังสตูดิโอพร้อมแก้วกาแฟก่อนที่จะมีเสียงใครเอ่ยเรียกรั้งเอาไว้..

"โฮซอก..."

เกล็ดเหมันต์น้อยใหญ่ ต่างร่วงโปรยปรายจากนภาสู่พื้นพิภพ วายุเยือกเย็นเข้าพัดผ่านใจกลางเมืองใหญ่ ฉุดรั้งให้ผู้คนต่างหยิบเสื้อกันหนาวออกมาห่มกายหยาบเพื่อเก็บเกี่ยวเอาความอบอุ่นเข้าไว้


7:30 p.m.

     เป็นเวลาล่วงเลยมานานแล้วที่ จองโฮซอก นั่งดู มินยุนกิทำงานอย่างไม่สนใจเขาเลย ร่างบางพยายามที่จะช่วงคุยด้วยแต่ก็เปล่าประโยชน์ ร่างหนาไม่มีเสียงตอบรับคำขานให้เขาเลย

"ฮยอง..ฮยองมีอะไรรึป่าว"
"......."
"ฮยอง ถ้าไม่มีอะไรผมไปทำงานต่อนะ"
"เดี๋ยว..."

คำแรกที่ออกจากปากหนาได้บอกรั้งร่างบางให้อยู่ ก่อนที่จะหันหน้ามา มือหนาเลื่อนกดเปิดเพลงๆนึงขึ้น

Trivia 轉 : SEESAW
"ฟังเพลงนี้ให้หน่อยสิ โฮซอก"
"อ่า..ได้ครับ"
시작은 뭐 즐거웠었네
(ในตอนเริ่มต้นนั้น ฉันเดาว่ามันคงเป็นความรู้สึกสนุก)
오르락내리락 그 자체로
(มันมีเพียงแค่การเคลื่อนที่ขึ้นและลงเท่านั้น)
어느새 서로 지쳐버렸네
(ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว เราทั้งคู่ก็รู้สึกเบื่อหน่ายกันเสียแล้ว)

ทำนองเพลงก็ยังคงดำเนินต่อไปตามที่ควรจะเป็นตัดกับร่างหนาที่ผ่อนตัวลงนั่งข้างๆร่างบางโดยที่ร่างบางเองก็สนใจอยู่กับเพลงที่ร่างหนาเปิด
จนมาถึงช่วงนึงของเพลง...

사랑이었고 이게 사랑이란 단어의 자체면
(ในตอนนั้นมันคือความรัก และหากว่านี่คือการนิยามความรัก)
굳이 반복해야 할 필요 있을까
(มันมีเหตุผลที่เราจะเริ่มเล่นมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปเรื่อยๆ หรือเปล่า)

"โฮซอก.."
"หื้อ-- อื้ออ.."

หน้าเรียวหันไปตามเสียงเรียกก่อนที่จะเอ่ยคำขานก็ถูกริมฝีปากหนาเข้าประกบเอาเสียแล้ว

ปากบางไม่ได้ตอบรับสัมผัสจูบที่ร่างหนามอบให้ เพราะกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยุนกิกดหัวให้เข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้น โฮซอกก็ตอบรับอย่างว่าง่าย

บรรยากาศทุกอย่างดลใจเหมือนถูกจัดฉากไว้ตั้งแต่แรก เพลงก็ยังคงบรรเลงตามเนื้อร้องอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งสองถูกรสจูบหวานดึงดำลงสู่ห้วงเวลาไว้ เหมือนทุกอย่างเคลื่อนที่ช้าลง เหมือนเวลาหยุดให้เหลือเพียงแค่สองเราไว้

ริมฝีปากสัมผัสไม่ได้ล่วงเกินแต่อย่างใด เพียงดูดดึงเอาปากนิ่มรสหวานเข้ามาชิมเล่นอย่างใจเย็น ร่างบางไม่ได้ขัดขืน เพียงปล่อยให้ร่างหนาได้กระทำอยู่อย่างงั้น ผิวสัมผัสทุกครั้งที่ยุนกิดูดดึงนั้น เป็นสัมผัสที่อ่อนโยน ละเอียดอ่อน และอบอุ่น

สุดรสหวานปานจะขาดใจ ทำให้ต้องผละจูบนั้นอย่างช้าๆพร้อมกับสายตาที่ยุนกิส่งผ่านให้โฮซอก เป็นสายตาที่วิงวอนและร้องขอ โฮซอกสบตารู้สึกสับสนเล็กน้อยกับการกระทำและสายตาแบบนั้น..

"ฮยองขอโทษ..โฮซอกกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม"
"ฮะ..ฮยองพูดเรื่องอะไร.."
"ฮยองยอมรับว่าตอนนั้นฮยองดูแลเราไม่ดีพอ.."

ถ้าเรื่องอะไรที่จองโฮซอกเย็นชาใส่ในตอนนั้น คงเป็นเพราะความรักของโฮซอกมันชั่งน่าเบื่อหน่าย โฮซอกจึงเลือกที่จะเลิกเล่นไม้กระดานหกระหว่างเขากับยุนกิ..

แต่ตอนนี้มินยุนกิกำลังเล่นไม้กระดานหกอยู่ฝ่ายเดียว เพราะความเบื่อหน่ายของโฮซอกกับอะไรเดิมๆที่ยังคงอยู่อย่างงั้น วันแล้ววันเล่า..

โฮซอกกำลังโกหกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไรจากเมื่อก่อน

โฮซอกรู้สึก จูบที่ได้รับโฮซอกรู้สึกดีกับมัน โฮซอกโหยหาสิ่งนี้จากมินยุนกิมาตลอด ถ้าในตอนนั้นยุนกิสนใจกันมากกว่านี้มีหรอโฮซอกจะเย็นชาใส่

หยาดน้ำใสไหลลงอาบแก้มสวย บ่งบอกถึงความรู้สึกที่อดกลั้นมานาน ไม่สามารถเก็บไว้ได้อีกแล้ว

โฮซอกกำลังพังกำแพงกั้นของตัวเองลงอย่างช้าๆ ผ่านหยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูไม่หยุด วายให้คนตรงหน้ารีบโผกอดและปลอบประโลมไว้ในอ้อมกอดอุ่น  มือหนาลูบเช็ดเอาคราบน้ำตาออกอย่างช้าๆที่เปรอะหน้าสวย ที่มองกี่ครั้งก็หลงทุกครั้งที่ได้มอง

"โฮซอก..กลับมาเล่นไม้กระดานหกกับฮยองอีกครั้งได้ไหม?"
"ฮยองขอโทษ..เพราะฮยองสนใจและดูแลโฮซอกไม่ดีพอ แต่ต่อจากนี้ ขอให้โฮซอกให้โอกาสฮยองได้ดูแลเราอีกครั้งได้ไหม?"

ใบหน้าสวยไร้ที่ติเงยมองคนที่ให้อ้อมกอดแก่เขาก่อนที่จะประทับริมฝีปากของกันและกันก่อนจะผละออก สบตาหวานส่งยิ้มอ่อนให้แทนคำตอบของคำถามก่อนหน้า

"ฮยองจะถือว่าเป็นของขวัญวันคริสต์มาสนะ"
"สุขสันต์วันคริสต์มาสครับฮยอง"

'ของขวัญที่ดีที่สุดในทุกๆวันของผม'
                                                 จอง โฮซอก


สิ่งที่ทั้งคู่ให้กันไม่ได้เรียกว่าความรัก
แต่มันคือความผูกพันธ์เล็กๆ ที่ต่อให้หายจากกันไปนานแสนนาน ความผูกพันธ์นี้ ก็จะนำพาความรู้สึก ความทรงจำ กลับมาสู่เรา และไม่มีวันจากเราไป..
                                                 Writer...♡

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561

🔞 ep. 18 luv is hurt


"อ๊ะ..."
.
สิ้นสุดเสียงแห่งการโหยหาความอยากกระหายทางเพศ โอมได้ประกบจูบอย่างอ่อนโยนลงไปที่ริมฝีปากบางสีเชอร์รี่เข้ม
.
"อื้มม..จ๊วบบ..จ๊วบบ"
"อ๊ะ..อื้มมม"
.
โอมกัดริมฝีปากบางเพื่อให้เปิดออกนำพาลิ้นร้อนเข้าไปตักตวงความหวานของคนตรงหน้าที่ตอนนี้เหงื่อยังคงไหลไม่หยุด พร้อมกับความร้อนในตัวที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะฤทธิ์ยา..
.
จูบรสหวานกับสัมผัสที่อ่อนโยนทำให้ไม่สามารถผละออกจากกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างโหยหาซึ่งกันและกัน แต่ก็ต้องผละออกเพื่อสูดอากาศเข้าปอดแล้วค่อยบรรเลงจูบรสหวานอีกครั้ง
.
มือซนของโอมก็คงจะไม่หยุดนิ่งเปลี่ยนจากลูบไล้มาเป็นปลดกางเกงออกแทน กางเกงชิ้นบางของคนใต้ร่างไม่นานก็ถูกปลดออก พร้อมกับกางเกงของเขาเองด้วย
.
"อื้มมม อ๊ะ...อ๊าา.." มือหนาชักรูดแก่นกายของคนใต้ร่างจนทำให้สายธารต้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้
.
เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้วก็ใช้นิ้วสอดเข้าไปที่ช่องทางรักเพื่อเบิกทางก่อน จาก 1 เป็น 2 และ..3 .
"อื้ออ..อ๊ะ..อ๊า...สะ..เสียว.."
"พร้อมยัง...?"
"อะ..อื้มม สะ..ใส่เข้ามาเลย...อ๊ะ!!!" .
แก่นกายใหญ่ถูกสอดเข้าไปในช่องทางรักสีชมพู ตอนนี้เหมือนมันกำลังกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว
. "อ๊ะ...แน่น..สัส.."
"ขะ..หยับ..สิ..อ๊าาาา.." .
คนใต้ร่างเขาทนไม่ไหวกับอาการแบบนี้ เขาต้องการมันมาก ยิ่งคนบนร่างลีลา เขาก็เหมือนจะขาดใจ .
"ขะ..ขอ..แรงๆ..อ๊ะ..อ๊ะ..." .
ยังพูดไม่ทันจบคำขอ เหมือนคนตรงหน้าเขาจะรู้ใจ ก็ค่อยๆขยับสะโพกให้เร็วและถี่ขึ้นเรื่อยๆ .
"อ๊ะ...อ๊ะ..อ๊ะ..."
"คะ..คราง..ชื่อกู..หน่อย..อ๊ะ.."
"อื้อ..อ๊ะ..อะ..โอม..อื้ออ..ระ..เร็วอีก..อ๊ะ"
"ได้..อ๊ะ!!.." .
คำขอนี้ถูกทำให้ได้ไม่ยาก บทรักที่ร้อนแรงก็เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภายในห้องแห่งนี้ ก็ยังคงเต็มไปด้วยเสียงครางที่ทำให้ทั้งคู่ยังคงจะไม่ให้บทรักนี้ จบกันง่ายๆ
. "อ๊ะ..จะเสร็จ...แล้วนะ..อ๊ะ!!"
"อะ..อื้มม..พร้อมกัน..นะ..อ๊ะ"
.
เสียงครางก็สิ้นสุดลง พร้อมกันน้ำขาวขุ่นที่ถูกฉีดออกมาแทน แล้วตอบด้วยเสียงหอบเหนื่อยจากการทำกิจกาม

หลังจากที่ปล่อยให้หอบหายใจอยู่สักพักร่างหนาก็พลิกผันร่างบางให้อยู่ในท่านอนคว่ำก่อนที่จะเอาแก่นกายสอดเข้าไปในช่องทางอีกครั้ง

ตามด้วยเสียงความกามที่สุขสมของทั้งคู่ก่อนที่จะบรรเลงรักบนเตียงใหญ่จนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน...

🔞 ep.14 luv is hurt


Posts : 2018/05/22 [ 12:56 ]
" จะเริ่มแล้วนะ :) "
นี่เป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของเขา ก่อนที่จะประทับริมฝีปากลงบนคอของผม พร้อมกับกัดเม้มจนเกิดรอยรักสีแดง

"อะ..อื้อออ~~"

ผมครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มือของผมที่ทาบกับอกเเกร่งพยายามจะดันตัวเขาออก แต่ด้วยแรงที่มีน้อยกว่า ทำให้ไม่สามารถต้านเขาได้เลย

"พะ..พอ..เหอะนะ"

ผมพูดห้าม เพราะไม่อยากเห็นตัวเองสมเพศไปมากกว่านี้แล้ว

" พูดมากหว่ะ!!!"
เขาตวาดใส่ผมก่อนที่จะประกบริมฝีปากบางและบดจูบที่ร้อนแรงลงไป ผมต่อต้านเขาอยู่นานจนคนตรงหน้ากัดริมฝีปากผมให้เปิดออก เพื่อตักตวงเอาความหวานในช่องปากของผม

"อื้มม..จ๊วบบ"

ภายในห้องตอนนี้ยังคงเต็มไปด้วยเสียงจูบอย่างดูดดื่ม จนเขาผละจูบออก แล้วเปลี่ยนมาเป็นสร้างรอยรักสีแดงบนอกแทน มือซนรีบถอดเสื้อของผมก่อนที่จะรีบซุกไซร้ตั้งแต่คอลงมายันหน้าอกและจบที่หน้าท้อง จนตอนนี้รอยสีเชอร์รี่ช้ำก็ขึ้นเต็มไปหมด

แต่ก็ไม่วายที่จบเพียงเท่านี้ คนตรงหน้าก็ปลดกางเกงออกก่อนที่แก่นกายใหญ่จะชูชันขึ้นมา บ่งบอกว่าพร้อมสำหรับคนตรงหน้าเขาแล้ว

"จะทำให้กูดีๆ หรือจะให้กูจับกด"

เขาพูดขึ้นมาก่อนที่จะจับใบหน้าผมให้เงยขึ้น
ผมได้ยินดังนั้นจึงค่อยๆจับแก่นกายใหญ่เข้าสู่ช่องปากของผมและเริ่มดูดเม้มอย่างช้าๆ

"อ๊ะ..อ๊าา...."

คนตรงหนาผมครางออกมา ก่อนที่จะกัดเม้มริมฝีปากของตัวเองแล้วใช้มือที่จับหัวผมไว้แล้วกระแทกเข้าไป จนทำให้ตอนนี้แก่นกายใหญ่ของเขาแทบจะลงคอผมอยู่แล้ว

"อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ"
"อื้มมม...อื้มม.."
"อ๊าาาา..เสียวสัส!!...."
"มะ..มึง..แม่ง..คะ..โครตเด็ด..อ๊ะ!!"

จนตอนนี้น้ำสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยออกมาจนทำให้เลอะเต็มปากแล้วใบหน้าของผม

"ฮึกก...พอเหอะ..กะ..กิต"

ผมพูดห้ามเขา เพราะคิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับผมแล้ว ไม่รักแล้วจะมาทำแบบนี้ทำไม
"หึ"

เขาค่อยๆโน้มหน้าลงมาหาผมจนตอนนี้ผมก็นอนราบกับเตียงไปแล้ว

" ดูสิวะ ของมึงยังไม่เส็จเลย"

พูดจบเขาก็ถอดกางเกงผมออก จนตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรปกปิดตัวอยู่เลย

"กะ..กิต..กูขอ..ร้อง..ฮึกก..หยุดเถอะ"

ผมพูดอ้อนวอนขอให้เขาหยุดทำเรื่องน่าอายแบบนี้ แต่เขาเหมือนจะไม่ฟังผมเลย กลับกันเขาใช้มือหยาบค่อยๆรูดแก่นกายของผมขึ้นลงช้าๆและเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ

"อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..."

ผมครางออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ หัวของผมมันขาวโพลนไปหมด ผมไม่มีความคิดอะไรเหลืออยู่เลย มีแต่ความรู้สึก ที่เรียกว่าเสียว
"อ๊ะ..อ๊าาา..กะ..กิต..อ๊ะ!!"

เขาทำไปเรื่อยๆจนน้ำสีขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมา

"แฮ่กก...แฮ่กกก...."

ผมหอบหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า ก่อนที่คนตรงหน้าจะประกบจูบผมอีกรอบ แต่จูบครั้งนี้มันนุ่มนวลกว่าครั้งแรก

"นอนซะ.."

เขาบอกผมด้วยเสียงที่เรียบนิ่งก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอน แล้วดึงผ้าห่มมาห่มกายหยาบนี้ไว้ ผมเองก็ต้องนอนเหมือนกัน นอนเพื่อให้ลืมเรื่องที่น่าสมเพช ขอให้มันเพียงแค่ฝัน

เมื่อทั้งคู่เข้าสูห้วงนิทรากลับมีสายตาคู่หนึ่ง ที่จับตามองพวกเขาตั้งแต่เริ่ม...